Oakley สุดยอดความภาคภูมิใจของแว่นตากันแดด
ด้วยการออกแบบที่ล้ำแฟชั่น และเทคโนโลยีที่โดดเด่น นวัตกรรมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยกว่า 600 สิทธิบัตร ผสมผสานได้อย่างลงตัวระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี อันเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Oakley ..โดยเฉพาะ
O เฟรมซึ่งเป็นเลนท์โค้งในแนวที่สมบูรณ์แบบของรูปทรงกระบอก
ซึ่งขอดีของมันคือสามารถมองได้ชัดเจน ทุกมุมมอง และปกป้อง ดวงตาได้ทุกด้าน
สามารถปกป้องอันตรายแก่สายตาจากแสงแดด ลดแสงจ้า ตัดแสงสะท้อนจากวัสดุผิวมัน (Polarization) ทำให้การมองเห็นภาพได้ชัดเจน มีชีวิตชีวาสมจริง ฯลฯ ทำให้แว่นกันแดด Oakley เป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนทั้งโลก
10 อันดับยอดนิยมของ แว่นกันแดด Oakley
#1 Half
Jacket 2.0
ด้วยการออกแบบที่แปลกใหม่ ล้ำแฟชั่น น้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทานทำให้เมื่อเปฺิดตัว Oakley Half Jacket 2.0 ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น นอกจากนี้การออกแบบให้ที่รองรับสันจมูกมีขนาดใหญ่พิเศษ ช่วยแนบแน่นกับใบหน้า ไม่หลุดง่ายเมื่อเกิดเหงื่อ
รวมทั้งการพัฒนาเลนส์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพภูมิอากาศของธรรมชาติซึ่งไม่สามารถทำให้ทัศนะวิสัยลดน้อยถอยลงไม่ว่าจะมีหมอกควันหรือดวกอาทิตย์ถูกเมฆบัง
ซึ่งจะต้องปรับตัวปรับสายตากันใหม่ ซึ่ง Oakley ได้ตัดปัญหานั้นออกไป ซึ่งการที่แสงเปลี่ยนแบบกระทันหัน
นั้น เมื่อใส่แว่นตาของ Oakley นั้น จะไม่ต้องมาปรับสายตาใหม่ ซึ่งสามารถทำกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนตัวเลนส์ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง photochromic (เลนส์ที่ปรับสีตามความเข้มของแสงหรือคนไทยเรียกเลนส์ออโต้), polarized (เลนส์ตัดแสงสะท้อน) และ prescription (เลนส์ที่ตัดตามสั่ง ซึ่งทุกครั้งที่มีการตัดเลนส์จะทำการขึ้นโมลตัวต่อตัวเท่านั้น
ไม่ได้ทำโดยการทำเลนส์และมาเจียออกเหมือนกับที่เราเห็นกันตามร้านตัดแว่นทั่วไป
ซึ่งทำให้จุด Focus เที่ยงตรง ใส่แล้วให้ภาพที่คมชัด
และมีความแม่นยำสูง)
#2 Holbrook
หนึ่งในรุ่นที่เป็นที่ชื่นชอบ ในยุค 1940 - 1950 Oakley Holbrook ถือเป็นรุ่นคลาสสิคอีกรุ่นหนึ่ง ที่ออกแบบทันสมัยในสไตล์วินเทจ และด้วย Technology Three-Point-Fit เพื่อให้จุดสัมผัส
สัมผัสแค่เพียงจุดเชื่อมของจมูกและด้านหลังขมับ
ลดความไม่สบายในการสวมแว่นที่ได้รับจากกรอบแว่นปกติทั่วไปที่มักเกี่ยวเฉพาะใบหูและจุดกดที่ไม่สมดุล
วัสดุกรอบ Oakley O Matter™ เป็นเทอร์โมพลาสติกฉีดขึ้นรูปออกแบบมาเพื่อการรองรับแรงสั่นสะเทือนและเพื่อความทนทาน
นอกจากนี้หากคุณอยู่ในที่มืดเป็นเวลานานและต้องพบกับแสงสว่างโดยฉับพลันนั้น คล้ายกับรูม่านตาของคนงานเหมืองแร่ในชิลีที่เป็นข่าวครึกโครมระดับโลก เมื่อไม่นานมานี รูม่านตาจะไม่สามารถหดตัวได้โดยเร็ว ส่งผลให้ดวงตาได้รับอันตรายจนถึงขั้นตาบอดได้ ซึ่งเลนส์ของ Oakley รุ่นนี้ ยังผลิตจากวัสดุพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่า Plutonite® นั้น จะสามารถกรองแสง UVA, UVB และ UVC ซึ่งเป็นอันตรายแก่ดวงตาได้ 100% รวมทั้งแสงสีฟ้า (blue light) ที่ความยาวคลื่นสูงถึง 400 นาโนเมตร
#3 Scuderia
Ferrari Fuel Cell
สำหรับผู้ชื่นชอบความเร็ว Oakley Scuderia Ferrari Fuel Cell ออกมาเอาใจนักแข่งด้วยดีไซน์ล้ำสมัย แนบแน่นกับใบหน้า มองเห็นวิสัยทัศน์ชัดเจน ดูเท่ห์ไม่เหมือนใคร มาพร้อม HDO (High Definition Optics) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง Oakley ได้จดลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่รวบรวมความสำเร็จของคุณสมบัติของแว่นตา ที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
โดยการทดสอบทางอุตสาหกรรมเปรียบเทียบกับ Standard Definition Optics (SDO) ของแว่นตายี่ห้ออื่นๆ ซึ่งมีการทดสอบอยู่ด้วยกัน
3 ประเภท คือ
1. Clarity Test เป็นการทดสอบความคมชัด
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ของ HDO ในการรักษาความคมชัดของภาพในการมองระยะไกลได้ดีกว่า SDO2. Prism Test แสดงให้เห็นว่า HDO ไม่ก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนของแสงเหมือนเลนส์ SDO ที่ก่อให้เกิดการมองเห็นวัตถุเลื่อนไปจากตำแหน่งจริง ทำให้สมองต้องทำงานหนักในการรวมภาพจากสองตาเข้าด้วยกัน
3. Refractive Test Comparison แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ HDO สามารถกำจัดภาพขยาย
หรือภาพหลอกตาที่พบกันอยู่ในเลนส์ SDO
นอกจากนี้ Oakley ยังได้ทุ่มเทให้กับการวิจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบที่ออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในสภาวะต่างๆ
โดยเรียกการออกแบบนี้ว่า Polaric Ellipsoid Lens Geometry เป็นการออกแบบเลนส์ตามทฤษฎี Ergonomic ซึ่งเลนส์จะมีความโค้งรับกับขอบดวงตา
ทำใหสวมใส่ได้กระชับ ปกป้องดวงตาได้เต็มที่ ทำให้ทัศนวิศัยมีความชัดเจนโดยรอบ
ซึ่งมีจุด PD รวมกว่า 200 จุดในเลนส์ชิ้นเดียว
เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดทุกมุมมอง ต่างๆจากเลนส์โค้งทั่วไป
ซึ่งจะสามารถเห็นชัดได้แต่ด้านหน้าตรงกลางเท่านั้น
ทำให้สามารถกลอกตามองได้โดยไม่ต้องเอี้ยวคอเพื่อมองในมุมอื่นๆ
และยังคงประกอบด้วย Technology Three-Point-Fit เพื่อให้จุดสัมผัส สัมผัสแค่เพียงจุดเชื่อมของจมูกและด้านหลังขมับ ลดความไม่สบายในการสวมแว่นที่ได้รับจากกรอบแว่นปกติทั่วไปที่มักเกี่ยวเฉพาะใบหูและจุดกดที่ไม่สมดุล
วัสดุกรอบ Oakley O Matter™ เป็นเทอร์โมพลาสติกฉีดขึ้นรูปออกแบบมาเพื่อการรองรับแรงสั่นสะเทือนและเพื่อความทนทาน
#4 X
Squared
Oakley X Squared ออกแบบมาเอาใจสาวก Oakley ผู้แอคทีฟและกระฉับกระเฉง ด้วยกรอบ
X metal ทำด้วยไททาเนียมวัสดุน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน มี Polarized เลนส์ให้เลือกหลากหลายประเภทและสีสัน ทั้ง ruby iridium, black iridium และ ice iridium.
* X METAL ย้อนกลับไปในยุค 90
ไม่มีผู้ผลิตแว่นรายใดที่จะนำกรอปโลหะ มาผลิตแว่นเพราะจะทำให้หนักเกินไปแข็งเกินไป
ไม่มีความยืดหยุ่น ซึ่ง Oakley ได้แก้ปัญหาเหล่านั้น โดยการใช้โลหะไทเทเนียม
และการออกแบบให้สามารถซับแรงได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง Oakley ได้ทดสอบใช้โลหะที่มีอยู่บนโลก
และได้เลือกโลหะ X METAL มาผลิตเป็นโครงแว่นตา
ถ้านึกให้ดี ๆ ตัวนี้ จะเป็นตระกูล โรมิโอ กับ จูเลียส ซึ่งตอนนั้น หนังกำลังดัง
#5 Crosshair
Oakley Crosshair ออกแบบก้านแว่นตาบิดหมุนสอดรับกับเลนส์สไตล์หยดน้ำตา ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา C-5 อัลลอยด์ และ Unobtainium (แร่ที่คนตามหาใน ภาพยนต์เรื่อง Avatar ถือเป็น Super-conductor ณอุณหภูมิห้อง) เพิ่มความทนทาน แต่ก็ยังสวมใส่สบาย พร้อม iridium เลนส์ปรับทัศน์วิสัยให้คมชัดตลอดเวลา ไม่ว่าจะในฤดูหนาวหรือฤดูร้อน
#6 Twoface
Oakley Twoface เดิมถูกออกแบบให้เหมาะกับการเล่นสเก็ตและกระดานโต้คลื่น เลนส์แบบ Plutonite ซึ่งเลนส์ของ Oakley รุ่นนี้ ผลิตจากวัสดุพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่า Plutonite® นั้น จะสามารถกรองแสง UVA, UVB และ UVC ซึ่งเป็นอันตรายแก่ดวงตาได้ 100% รวมทั้งแสงสีฟ้า (blue light) ที่ความยาวคลื่นสูงถึง 400 นาโนเมต สามารถกันแสง UV ได้ 100%
มาพร้อมกับ XYZ Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง Oakley ถือเป็นความลับสุดยอด
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนการมองเห็นผ่านเลนส์บนแกนทั้ง 3 ในมิติของ แนวนอน (X) แนวดิ่ง (Y) และแนวลึก (Z) ที่จะโอบรอบมุมเอียงลาดเพื่อลดการบิดเบือน
และเพิ่มความชัดเจนในทุกมุมมอง
ทำให้ภาพที่ได้รับจากสายตาส่งผ่านไปยังสมองจึงเฉียบคม และปราศจากการบิดเบือน
แตกต่างจากเลนส์อื่นๆ ที่มีการวัดเพียง 2 แกน คือในแนวนอนและในแนวดิ่ง เท่านั้น
นอกจากนี้ยังคงประกอบด้วย Technology Three-Point-Fit เพื่อให้จุดสัมผัส สัมผัสแค่เพียงจุดเชื่อมของจมูกและด้านหลังขมับ ลดความไม่สบายในการสวมแว่นที่ได้รับจากกรอบแว่นปกติทั่วไปที่มักเกี่ยวเฉพาะใบหูและจุดกดที่ไม่สมดุล
วัสดุกรอบ Oakley O Matter™ เป็นเทอร์โมพลาสติกฉีดขึ้นรูปออกแบบมาเพื่อการรองรับแรงสั่นสะเทือนและเพื่อความทนทาน
#7 Flak Jacket XLJ
Oakley Flake Jacket เป็นที่ชื่นชอบของนักกรีฑาชั้นนำ เลนส์สามารถปรับให้สวมใส่สบายตา ทุกสภาวะของแสงแดด นอกจากนี้สามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ได้ง่าย ตามสภาวะแวดล้อมที่ต้องการ นอกจากนี้ตัวเฟรมยังทำจากวัสดีชั้นเยี่ยม Unobtanium ทำให้ทนทานและกระชับกับใบหน้า
#8 Plaintiff Aviator
ออกแบบโดยยึดสไตล์ของนักบิน และผสมความเป็น Oakley ลงไปทั้ง วัสดี C-5 อัลลอยด์ และบานพับแบบโช๊ค ทำให้ Oakley รุ่น Plaintiff Aviator มีความทนทาน ใส่ได้ในทุกสภาวะ
นอกจากนี้ ด้วย ค่า B.C. 8.75 ทำให้แนบแน่นเพอดีวลาสวมใส่พร้อมทัศนวิสัยดีเยี่ยมทุกมุมมอง
(B.C. ย่อมาจาก Base Curve หมายถึงรัศมีความโค้งด้านหลัง ของเลนส์ชิ้นนั้น ซึ่งเป็นด้านที่ติดดวงตาของเรา เลนส์ที่มี B.C. 8.8 มม.หมายถึงเลนส์ชิ้นนั้น แบนกว่าเลนส์ที่มี B.C. 8.4 มม.)
#9 Vented Racing Jacket
Oakley รุ่น Vented Racing Jacket ออกแบบมาในแล้ว สปอร์ต ล้ำๆ สุดเท่ห์ มาพร้อมกับ Polarized เลนส์ (ตัดแสงสะท้อน) และ XYZ Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง Oakley ถือเป็นความลับสุดยอด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนการมองเห็นผ่านเลนส์บนแกนทั้ง 3 ในมิติของ แนวนอน (X) แนวดิ่ง (Y) และแนวลึก (Z) ที่จะโอบรอบมุมเอียงลาดเพื่อลดการบิดเบือน และเพิ่มความชัดเจนในทุกมุมมอง ทำให้ภาพที่ได้รับจากสายตาส่งผ่านไปยังสมองจึงเฉียบคม และปราศจากการบิดเบือน แตกต่างจากเลนส์อื่นๆ ที่มีการวัดเพียง 2 แกน คือในแนวนอนและในแนวดิ่ง เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมี Switchlock Interchangeable lens เทคโนโลยีที่ให้คุณเปลี่ยนเลนส์ได้ง่ายตามใจชอบ
#10 Hijinx
Oakley Hijinx ออกแบบมาอย่างสไตล์เรียบง่าย เหมาะกับสไตล์สบายๆ ของนักกีฬา ฟิตกับทุกรูปหน้า ขาแว่นและบานพับปรับเข้ากับศรีษะได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ Oakley Hijinx ยังผ่านมาตรฐาน ANSI Z87.1 สำหรับรองรับแรงกระแทกความเร็วสูงจากลมที่วิ่งผ่าน
Credit: ebay
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น