อย่าเอาการตำหนิ ของนักวิจารณ์ มาทำให้ตัวเองท้อแท้
"ห้ามไฟไม่ให้มีควัน ห้ามอาทิตย์ ห้ามดวงจันทร์ ส่องแสงแล้วไซร์ ถ้าห้ามได้ค่อยห้ามคนนินทา ตำหนิ ติเตียน"
"อันนินทากาเล เหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีด มากรีดหิน
แต่ องค์พระปฏิมา ยังราคิน คนเดินดิน หรือจะสิ้น คนนินทา"
."การจะห้ามให้ใครไม่ให้พูดถึงเราในทางเสียหาย คงเป็นเรื่องยาก คำวิพากษ์วิจารณ์ก็มีทั้งสองด้าน ติเพื่อก่อและติเพื่อทำลาย .. การนำคำติฉินนินทาที่เสียหายของผู้อื่นดึงเข้าหาตัวเอง เฝ้าตีอกชกมือ กลายเป็นความเคียดแค้น หรือเฝ้าเก็บเอามาคิดน้อยอกน้อยใจ รังแต่จะทำให้รู้สึกท้อแท้ กลับทำให้ตัวเองยิ่งหมดสิ้นพลังในการต่อสู้และดำเนินชีวิตต่อไป เท่ากับเราเป็นผู้พ่ายแพ้ต่อคำนินทาเหล่านั้น"
"ติเพื่อก่อเราก็ควรน้อมรับเอามาปรับปรุงตัวเอง ส่วนติเพื่อทำลายและคำนินทา ควรทำใจตัวเองไม่ให้ทุกข์ใจไปกับคำพูดเหล่านั้น ผลงานและความจริงเท่านั้นที่ทำให้คำติฉินนินทาเหล่านั้นย้อนกลับไปยังคนนินทา และปิดปากเขาอย่างได้ผลที่สุด"
"Great minds discuss ideas.
Average minds discuss events.
Small minds discuss people."
"คนจิตใจดีงามถกเรื่องแนวคิด.
คนจิตใจปกติถกเรื่องราวเหตุการณ์
คนจิตใจคับแคบคอยแต่จะซุบซิบนินทาผู้อื่น"
"If you have no critics you'll likely have no success."
"ไม่มีคำวิพากษ์ วิจารณ์ ไม่มีความสำเร็จ"
"Criticism comes easier than craftmanship."
"วิจารณ์ผู้อื่นง่ายกว่าลงมือทำเอง"
"Be Keyboard Criticism Coach comes easier than be the player"
"เป็นโค้ชคีย์บอร์ดมันง่ายกว่าการลงไปเล่นเอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น