วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

#จะอยู่กันด้วยการเสแสร้ง..อย่างนั้นเหรอ


บ่อยครั้งที่ที่คนเราอาจต้องฝืนตัวเอง
แสดงออกโดยถูกกรอบของสังคมบีบบังคับ
จนหลายครั้งกริ่งเกรงว่าการกระทำของตนเอง
อาจจะไม่ดี ไม่เหมาะในสายตาคนอื่น



แต่งกายไม่เข้าพวกก็เกรงคำติฉินนินทา
อยากเต้นแร้งเต้นกาก็กลัวไม่เหมาะ


บางทีก็อึดอัดไปนะ
ทำไมคนเราต้องสูญเสียความเป็นตัวเอง
จิตวิญญาณหายไปไหน
หรือมีเพียงศิลปินที่ทำได้





ไม่จำเป็นหรอกที่ทำตัวใหใครเขาชมว่าดี
แค่รู้ว่า.. จิตสำนึกที่เรามี

มันก็ดีพอแล้ว

--------------------

ศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำที่น่าสนใจ

"Conscience and Awareness"

จากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแก่ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในพิธีสวนสนาม และถวายสัตย์ปฏิญานตน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ที่ได้ทรงเตือนให้คนไทยได้ สำนึกตระหนัก’ ถึงความเป็นชาติ และอย่าขาดความสามัคคี 
มิฉะนั้นเราก็จะประสบเคราห์กรรมกันทั้งชาติ
หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ๒ ฉบับที่ได้นำเสนอข่าวในเรื่องนี้ มีการใช้คำที่มีความหมายถึง
 สำนึกตระหนัก’ ที่ทรงใช้ ต่างกันอย่างน่าสนใจทีเดียวค่ะ ขอคัดข้อความตรงนี้ของทั้ง ๒ ฉบับให้ดูเลย
     We can say that if Thais have a lack of awareness   for the country, unity, we all may face calamity.’  ‘If Thais lack a national conscience and lack a sense of unity, the entire country will face misfortune’

     คำ ๒ คำที่ว่านี้ก็คือ ‘conscience’ กับคำว่า ‘awareness’ ความหมายของคำ ๒ คำนี้ เหมือนกันต่างกันอย่างไร 

     คำว่า ‘awareness’ หมายถึงตระหนักรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นมีอยู่ และมีความสำคัญ 
ขณะที่ ‘conscience’ นั้น
 มีความหมายถึงความสำนึกในจิตใจที่จะบอกเราว่าสิ่งที่เรากระทำลงไปนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ 

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ‘con science’ นั้นเกี่ยวข้องไปถึงความรู้สึกผิด ชอบ ชั่ว ดี ถึงการตัดสินว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ขณะที่ ‘awareness’ นั้นเป็นเพียงแค่ตระหนักรู้ และรู้ถึงความสำคัญของสิ่งนั้นเท่านั้น ไม่มีเรื่องของการตัดสินว่าสิ่งนั้นผิด ชอบ ชั่ว ดี อย่างไร

     ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าฉบับหนึ่งฉบับใดใช้คำผิดนะคะ เพียงแต่อยากให้เราได้มี awareness ว่าการเลือกใช้คำเป็นเครื่องแสดงถึงนัย (sense) ที่ผู้เขียนตั้งใจที่จะสื่อออกไปยังผู้อ่านได้เป็นอย่างดีทีเดียว









Bully, Pretend, กับ Tease 
(แกล้ง รังแก ข่มเหง แสร้ง ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร )

pretend (v.) คล้ายกับคำว่า act (v.) แสดง หรือ เสแสร้ง ซึ่งเป็นด้านลบหรือบวกก็ได้

Quit pretending like you don’t understand what I’m saying!
เลิกเสแสร้งเหมือนว่าตัวเองไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด
Quit acting like you don’t understand. 
เลิกแสดงว่าเธอไม่เข้าใจสักที
Actors are good at pretending.
นักแสดงแสดงได้เก่ง

bully (n.) คนพาล 
Ben is such a bully! 
เบนเป็นคนพาล
Ben is not really a bully. I was just kidding.
เบนไม่ใช่คนพาล ฉันแค่ล้อเล่น
Are you a bully? 
คุณเป็นคนพาลไหม
No, I’m nice. 
ไม่ ฉันใจดี

bully (v.) พาล, ข่มเหง
Don’t bully other students at school. 
อย่ารังแกนักเรียนคนอื่นที่โรงเรียน
Do you like to bully other people?
คุณชอบพาลใส่คนอื่นไหม?
He bullies me sometimes.
เขาพาลใส่ฉันในบางครั้ง

tease (v.) แกล้ง, หยอกเล่น
He likes to tease other people.  
เขาชอบแกล้งคนอื่น
He likes to tease other people because he likes them. 
เขาชอบแกล้งคนอื่นเพราะเขาชอบคนเหล่านั้น
He likes to tease other people because he loves them. 
เขาชอบแกล้งคนอื่นเพราะเขารักคนเหล่านั้น
He likes to tease girls that he loves or that he has a secret crush on. 
เขาชอบแกล้งผู้หญิงที่เขาแอบรัก
I like to tease my cat. But be careful; 
if you tease your cat, he might scratch you! 
ฉันชอบแกล้งแมวของฉัน แต่ต้องระวัง
ถ้าคุณแกล้งแมวของคุณ แมวอาจจะข่วนคุณ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น