วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ความกลัว..ตัวการสำคัญที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต


ความกลัว เป็นสิ่งที่คอยฉุดรั้ง..
 ให้ชีวิตของเราไม่เดินไปข้างหน้า ตามศักยภาพที่มันควรจะเป็น

ความกลัวเป็นบ่อเกิดของความวิตกกังวล..
ความวิตกกังวลเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายหลายๆอย่าง
 เกิดความผิดปกติของการทำงานของต่อมต่างๆในร่างกาย

เราคงเคยได้ยินคำว่ากลัวจนตัวสั่น..ความกลัวทำให้ตัวสั่นเหมือนความโกรธ
แต่ความโกรธเป็นการสั่นสู้..แต่ความกลัวร้ายกว่ากลับเป็นการสั่นหนี


ความกลัวฝังรากลึกในจิตใจ..ระดับจิตใต้สำนึก
เป็นสัญชาตญาณในการอาตัวรอดอย่างหนึ่งของมนุษย์
เป็นกับดักใจจิตใจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราไม่กล้าเดินออกจากกรอบ
....และก้าวเดินไปถึงจุดหมายที่เราใฝ่ฝันไว้

หลายครั้งเราจึงพบว่า ความคิดดีๆ หรือความฝันดีๆ ที่เราอยากทำ..
ที่เราอยากเป็น.. กลับถูกพับเก็บไว้ ไม่เคยได้ลงมือทำซักที
เพราะเราติดอยู่กับกับดักของความกลัวที่สำคัญ 3 อย่างคือ

1. กลัวไม่ดีพอ 
คิดว่าตัวเองเก่งไม่พอ.. กลัวว่าถ้าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จละ ฯลฯ
2.กลัวคนไม่รัก
คิดว่าถ้าเราทำแบบนี้แล้วคนอื่นจะไม่ชอบ..ไม่กล้าคิดต่าง ไม่กล้าทำตามใจตัวเอง
3. กลัวว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง
ทำอย่างนี้แล้วจะเป็นแกะดำมั๊ย..ชาวบ้านไม่เห็นมีใครทำแบบนี้เลย.. 
สุดท้ายก็ลงเอยว่า อยู่แบบเดิมๆ ดีกว่า..


การก้าวข้ามกับดักของความกลัว..ต้องอาศัย 3 สิ่ง

ความเชื่อ...
ความกล้า....
ความมุ่งมั่น...

ความเชื่อเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะหักล้างความกลัวภายใต้จิตสำนึก
เป็นการสร้างโปรแกรมหรือกรรมใหม่ขึ้นในจิต..
เราต้องเชื่อว่า ทุกคนล้วนมีสิ่งดีๆอยู่มากมายในตัวเองที่ไม่เหมือนคนอื่น
ที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นจุดแข็งและนำมาสร้างเป้าหมายส่วนตัวของตัวเอง
เรียนรู้ที่จะขยายและพัฒนาสิ่งดีๆ ในตัวเองแทนที่จะติดอยู่กับดักของจุดด้อยและข้อบกพร่องของตัวเอง


การสร้างความเชื่อจนค้นพบจุดแข็ง
ที่สามารถนำมาพัฒนาสร้างเป้าหมายของตัวเอง
และคอยตอกย้ำจุดแข็งและเป้าหมายนั้น ทุกๆวัน
จนรู้สึกได้ว่าเราได้รับความสำเร็จน้ันๆแล้ว
จะเหมือนกับการโปรแกรมความเชื่อนั้นในจิต
สร้างฉันทะ วิริยะ จนเกิด จิตตะและวิมังสาขึ้นในจิตใจ

การทำดังกล่าวเปรียบเหมือนการการร้องขอกับจักรวาล
และจักรวาลจะดึงดูดสิ่งที่เราร้องขอเข้ามาตามกฎของแรงดึงดูด
จนเกิดความกล้า และความมุ่งมั่น 
ที่จะเดินออกจากกรอบ..
หลุดจากกับดักของความกลัว

และรอรับความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ในที่สุด




...................................................

Simply mind
Dec 25, 2016



วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จุดเปลี่ยนของชีวิต (The Tipping Point)

หลายช่วงชีวิตของคนเราล้วนผ่านจุดผกผัน... หรือจุดเปลี่ยนของชีวิต
หลายคนเฝ้ารออย่างอดทน.... เมื่อไหร่จะถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต

หลายคนเฝ้าภาวนาและอ้อนวอนโชคชะตานำพาให้ไปสู่ จุดเปลี่ยนของชีวิต..

หลายคนไม่รู้ว่า เราสามารถกำหนดโชคชะตา... นำไปสู่ จุดเปลี่ยนของชีวิตได้ด้วยตนเอง

สุดท้าย จึงถูกจิตใต้สำนึกของตนเองทั้งด้านดีและด้านเลว ที่เราเรียกว่า โชคชะตา... มากำหนดชีวิตของเราเอง

เราคือผู้กำหนดชะตา ชีวิตของเราเอง..
จุดผกผันหรือจุดเปลี่ยนของชีวิต
  เป็นเพียงจุดเล็กๆ ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเราอย่างมหาศาล

"How Little Things Can Make a Big Different"

Malcolm Gladwell ได้เปรียบเทียบจุดเปลี่ยนของชีวิตก็เหมือนกับการระบาดของเชื้อโรค ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้นี้เกิดขึ้นโดยมีลักษณะสำคัญ คือ มีคนบางกลุ่มเป็นตัวนำให้แพร่ไป  มีแนวคิดหรือพฤติกรรมที่ติดต่อแพร่ไปได้เหมือนเชื้อโรค การแพร่นั้นเป็นไปแบบทวีคูณ คือเพิ่มเป็นสองเท่าอยู่เรื่อยๆ โดยปัจจัยสำคัญของการแพร่นั้นได้แก่ ตัวพาหะ เชื้อโรค และสภาพแวดล้อมรอบๆสิ่งนั้นๆ 

ดังนั้นหากเราต้องสร้างจุดเปลี่ยนของชีวิต และกำหนดชะตาชีวิตของเราเอง เราต้องหา 3 สิ่งนี้ให้เจอ

1. ตัวพาหะ จะนำทางเราไปสู่การแก้ปัญหาหรือนำทางเราไปสู่ความสำเร็จตามที่เราตั้งเป้าไว้

กฏของคนกลุ่มน้อย (Law Of the Few) คนกลุ่มน้อยสามกลุ่ม ที่มีบทบาทสำคัญต่อการระบาด คือ ผู้เชื่อมโยง ผู้รู้ และนักขาย โดยคนทั้งสามกลุ่มนี้มีคุณสมบัติต่างๆ กัน คือ
(1) ผู้เชื่อมโยง (Connector)
- เก่งเรื่องคน สามารถประสานเชื่อมโยงคนจากหลายๆ วงการได้
- รู้จักคนมาก ชอบคบหาเพื่อน สร้างความสัมพันธ์
- ชำนาญในการใช้ ความสัมพันธ์อ่อนๆ คือเป็นมิตรที่ดีแม้ไม่ได้พบกันบ่อย
- มีชีวิตอยู่ในหลายๆวงการ ทำให้สามารถเชื้อเชิญคนมาได้จากกลุ่มที่หลากหลาย
- ผู้เชื่อมโยงจะเป็นตัวเชื่อม สามารถแพร่แนวคิดไปได้ในวงกว้าง
(2) ผู้รู้ (Maven)
- เก่งเรื่องข้อมูล เป็นทั้งผู้สอน และผู้ใฝ่เรียนรู้ 
หลายครั้งช่วยให้เราค้นพบตนเอง และมีเป้าหมายที่ชัดขึ้น
- เมื่อค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ก็สนใจอยากให้คนอื่นรู้ด้วย
- มีความรู้ และทักษะในการจุดชนวนให้เกิดการระบาดของแนวคิด
- ผู้รู้ ทำหน้าที่เป็นแหล่งต้นทางของเนื้อหาที่จะแพร่ออกไป
(3) นักขาย (Salesman)
- เก่งในการจูงใจ สามารถทำให้คนที่ลังเลสงสัย กลับมาเชื่อได้ง่ายๆ
- มีทักษะที่จูงใจผ่านทางสีหน้า ภาษากาย ดึงให้คนฟังคล้อยไปตามจังหวะ
2. เชื้อโรค เปรียบเสมือน เป้าหมายในชีวิตที่เราต้องการจะไปหรือสิ่งที่เราต้องการเผยแพร่ออกไป... 
ซึ่งเป้าหมายนั้นจะต้องหมั่นตอกย้ำให้เห็นภาพที่ชัดเจนในจิตใจโดยจะต้องมีความรู้สึกได้จริงๆ ว่าเราได้บรรลุเป้าหมายนั้นๆแล้ว โดยจะมีพลังเมื่อเป้าหมายนั้นมีพื้นฐานมาจากความชอบของเราเอง ความชอบจะเป็นแรงผลักดันให้เป้าหมายนั้นไปถึงได้โดยเร็ว 
ระดับของการบรรลุเป้าหมาย
  เปรียบได้กับการที่เชื้อโรคบางชนิดที่สามารถติดต่อง่าย 
(Stickiness Factor) กว่าชนิดอื่นๆ
-  สิ่งๆนั้นจะต้อง จำได้ง่าย ไม่ลืม ติดหู ติดตา ติดปาก
-  ผลักไปสู่การกระทำ การแสดงออกซึ่งจะทำให้ ติด ไปที่คนอื่นได้อีก
- ไม่รกรุงรัง ตัดรายละเอียดไม่จำเป็นออก ปรับวิธีการนำเสนอให้สั้น และง่าย

หลายคนที่ยังหาเป้าหมายของชีวิตตนเองไม่เจอ อาจจะต้องเริ่มจากหาผู้รู้ให้เจอเพื่อทำให้เราได้เข้าใจตนเองและสร้างเป้าหมายในชีวิตของเราให้ได้
3. สภาพแวดล้อม มีอิทธิพลอย่างสูง ในการแพร่ระบาด (อุณหภูมิ, ความชื้น, ฯลฯ) หากเราต้องการความสำเร็จ เราจะต้องไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะเอื้อให้เราประสบความสำเร็จ (Power Of Context)  หากเราต้องการความร่ำรวย เราจะร้องเรียนรู้ที่จะทำในสิ่งที่คนรวยเขาทำ 

หา 3 สิ่งนี้ให้เจอ......
 แล้วคุณจะเป็นผู้สร้างจุดเปลี่ยนในชีวิตของคุณเอง แทนที่จะรอคอยให้โชคชะตามากำหนดจุดเปลี่ยนในชีวิตของคุณเอง

-------------
Simply Mind 18/12/59


วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

# เรียนรู้ทุกครั้งจากข้อผิดพลาด

บทเรียนจากโทมัส เอดิสัน




Thomas Edison ตอนทดลองผลิตหลอดไฟ
เขาได้ทดสอบกับวัสดุไปแล้วกว่า 2,000 ชนิด 
ก็ยังได้ผลที่ยังไม่น่าพอใจ 
จนผู้ช่วยของเขาก็เริ่มบ่นว่า 
การทดสอบทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นการเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา
 ไม่เกิดประโยชน์อันใด น่าจะหยุดได้แล้ว

เอดิสัน ตอบผู้ช่วยของเขาด้วยน้ำเสียงเป็นประกาย
 เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่น ว่า เปล่าเลย เรามาได้ไกลแล้ว และได้เรียนรู้มากมาย 
อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่า
 มีวัสดุกว่า 2,000 ชนิดที่ไม่สามารถนำมาใช้ในการผลิดหลอดไฟได้





ผู้ชนะล้วนเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
แต่ผู้แพ้เฝ้าแต่ผิดหวังท้อแท้และหมดกำลังใจ


วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

#ฮีโร่ในดวงใจและเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

ภาพของหนุ่มน้อยชาวสิงคโปร์ Joseph Isaac Schooling ที่ถ่ายคู่กับฮีโร่ในดวงใจของเขา Michael Phelps ในปี 2008 และใครจะคิดว่าจากฮีโร่ในดวงใจกลับสร้างแรงผลักดันอย่างมุ่งมั่นที่จะไปยืนเคียงข้างฮีโร่ของเขา... อีก 8 ปีต่อมา Schooling กลับล้ม Phelps และคว้าเหรียญทองมาครองในโอลิมปิคที่บราซิล...
 #Rio2016




# ในสายตาของช่างภาพมืออาชีพ


แล้วคุณจะเชื่ออะไรได้ใน Social Media

ในสายตาของช่างภาพมืออาชีพ 

ภาพที่ดูธรรมดาๆ

ก็อาจเป็นภาพที่สุดมหัศจรรย์ได้


พวกเราล้วนอยู่ในโลกมายา...

และพวกเราก็ล้วนชื่นชมความงาม

ในโลกมายา













Credit: Boredpanda#

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

# ภาพที่ได้รับรางวัล จากการแข่งขัน The National Geographic travel photography contest 2016

ชื่นชมกับภาพรางวัลชมเชยจากการประกวด
The National Geographic travel photography contest 2016
ซึ่งคัดเลือกมาจากกว่า 10,000 ภาพที่ส่งเข้าประกวด

ปีนี้ภาพที่ได้รับรางวัลใหญ่เป็นผลงานของ Anthony Lau จากฮ่องกง
ด้วยผลงานภาพ " A Hourseman in Inner Mongolia" อันงดงาม
นอกจากนี้ยังมีอีก 9 ภาพที่ได้รับรางวัลประจำปีนี้ ให้เราได้ชื่นชมกั

#4 Honorable Mention:

ภาพอันน่าประทับใจ ที่จับได้จากด้านบนของเฮลิคอปเตอร์
เมื่อวันที่ 5 พ.ย 2014 ก่อนวันเกิดปีที่ 27 ของเขา
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นของขวัญวันเกิดที่น่าประทับใจที่สุด
เมื่อเขาได้จับภาพที่เห็นถึงเส้นแบ่งของ 
สวนสาธารณะอันเงียบสงบ(Central Park) กับความวุ่นวายของเมือง
ที่ไม่เคยหลับ ของ แมนฮัตตัน นิวยอร์ค


 Nature: Bears On A Berg, Nunavut, Canada

ภาพอันหน้าหลงใหลของแม่หมีขั้วโลกหยอกเย้ากับลูกตัวน้อย บนยอดหิมะอันขาวโพลนของแคนาดา






ภาพชีวิตยามเช้าใน  Varanasi



 Antofagasta, Chile


ภาพสระมรกตยามค่ำคืนท่ามกลางหมู่ดาว แห่งชิลี





ธรรมชาติมักมีเหตุการณ์ที่ สวยงาม น่าประทับใจ
แม้บางครั้งจะดูเหนือธรรมดา อย่างเช่น
ภาพกับดัก 2 ชั้น นี้ที่ Brazilian Pantanal


 Cities: Silenced, Guangdong Sheng, China

ภาพหอพักนักศึกษา ของ South China Normal University
ซึ่งเหล่านักศึกษาอยู่ในช่วงพักเบรค หลังอาหารกลางวัน
ก่อนที่จะกลับไปเรียนกัน




ภาพหญิงชราชนเผ่า Kinnaura  ในหมู่บ้านที่ห่างไกล
ในเมือง Himachal Pradesh ประเทศอินเดีย 
กำลังแบกท่อนซุง เพื่อไปก่อไฟคลายหนาวที่บ้านของเธอ



 Cities: Celestial Reverie, Pulau Pinang, Malaysia

ภาพชีวิตในชนบทอันสงบเงียบ แหล่งที่เที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามแห่งหนึ่งของมาเลเซีย




 California, United States

ภาพยกน้ำหนัก ของนักเพาะกายที่ Muscle Beach Gym
ใน Venice Beach, CA



วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

#เมื่อรองเท้า เปลี่ยนสีได้


ASICS' New Gel Quantum 360 CM Sneaker
 รองเท้าเปลี่ยนสีตามการเคลื่อนไหว

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของรองเท้า Sneaker คือเป็นทั้งรองเท้าสำหรับใส่ทั่วไปและใช้ออกกำลังกาย
เมื่อ ASICS' เอาจุดเด่่นของตนเอง ที่ได้รับรางวัล เจลกันกระแทก (Gel Cushioning)
และน้ำหนักที่เบาทำให้สวมใส่สบายไม่ว่าจะหิ้วเข้ายิม หรือใช้ในชีวิตประจำวัน
มารวมเข้ากับ ไอเดียการเปลียนสีตามการเคลื่อนไหว
จากเขียวสู่่แดงน้ำเงินและม่วง..

ยิ่งทำให้เพิ่มสีสันและและเสน่ห์ ให้กับรองเท้าคู่กาย

ไปในทุกๆที่ได้อย่างลงตัว

ตอนนี้เปิดตัวในยุโรป สนนราคาอยู่ประมาณ 190 ยูโร
ใครชอบเติมความแปลกใหม่ให้ชีวิตก็น่าจะลองสอยมาซักคู่

















Credit: highsnobiety