ก้าวเดินไปสั่งเมนูเครื่องดื่มของ Starbuck ครั้งต่อ
ไปอย่างมั่นใจด้วยเทคนิคอย่างเหนือชั้น.....
นี่คือวิธีที่คอสตาร์บัคส์สั่งกาแฟอย่างเชี่ยวชาญ ลองทำตามดูเท่านี้คุณก็สามารถดูคูลโดยไม่เขินกับบาริสต้าได้อย่างสบายๆอีกทั้งยังมั่นใจได้ว่าคุณจะได้เมนูเครื่องดื่มกาแฟที่ถูกใจคุณที่สุด
โดยสรุปสั้นๆแล้ว คุณสามารถสั่งตามลำดับได้ดังนี้:
“ขนาดของเครื่องดื่ม –> ชนิดและลักษณะของเครื่องดื่ม –>ร้อน/เย็น/ปั่น –> ความหวาน (บอกไม่บอกก็ได้) –> ชนิดของนม (บอกไม่บอกก็ได้) –> ปริมาณคาเฟอีน (บอกไม่บอกก็ได้) –> extra (บอกไม่บอกก็ได้)”
1. เลือกขนาดแก้ว
ขนาดแก้วเป็นสิ่งที่เราต้องสั่งหรือหากเราลืมบาริสต้าก็จะถามเอง โดยทั่วไปแล้วบาริสต้าก็จะปรับขนาดของ Short
ให้เราด้วยตามรายละเอียดต่อไปนี้ โดที่กาแฟร้อนจะเป็นแก้วกระดาษส่วนกาแฟเย็นจะเป็นแก้วพลาสติก
- Short (8oz) (237 มิลลิลิตร) ปกติใส่กาแฟ 1 Shot
- Tall (12oz) (355 มิลลิลิตร) ปกติใส่กาแฟ 1 Shot
- Grande (16oz) (473 มิลลิลิตร) ปกติใส่กาแฟ 2 Shot
- Venti (20oz) (591 มิลลิลิตร) ปกติใส่กาแฟ 2 Shot
2. เลือกตามตามชนิดและลักษณะของเครื่องดื่มเริ่มจากกาแฟก่อน
ในส่วนของกาแฟใน Starbucks มีสองแบบแบ่งตามวิธีชงคือ- Brewed Coffee หรือ กาแฟดำชงสด เปลี่ยนตามฤดูกาลถ้าใครแอบสังเกต ลองไปดูได้ครับ หลังพนักงานจะมีหม้อควันๆอยู่ 55555อันนั้นหล่ะครับ หม้อชงกาแฟสดของเค้า
- Espresso คือกาแฟที่สกัดจากไอ้น้ำกับเมล็ดกาแฟ (pressed-out coffee)
ในภาษาอิตาลี หมายถึง ด่วน หรือ เร็ว
ปกติแล้วหากเรามองว่า Espresso คือกาแฟเป็นพื้นฐาน (Based) ของการผสมให้เกิดเมนูต่างๆ ในทางสากลแล้วก็จะมีชื่อเรียกตามการผสมที่ต่างไปดังนี้
(Espresso คือกาแฟที่สกัดจากไอน้ำกับเมล็ดกาแฟในภาษาอิตาลี หมายถึง ด่วน รีบ หรือ เร็ว จะเป็นกาแฟหลัก ที่ผู้คนนิยมดื่มกัน)
- Espresso + น้ำร้อน = Americano
- Espresso + นม = Flat White หรือ au lait
- Espresso + ฟองนม = Macchiato
- Espresso + hot chocolate = Mocha
- Espresso + hot chocolate และ ฟองนม = Mochaccino
- Espresso + นม และ ฟองนม = Latte หรือ Cappuccino (โดย Latte, Cappuccino จะต่างกันที่สัดส่วนของนมและฟองนมเป็นหลัก)
3. เลือกร้อน เย็น ปั่น
โดยทั่วไปแล้ว Starbucks (รวมทั้งร้านกาแฟชั้นนำหลายๆที่) ก็จะมีเมนูตามลักษณะเด่นๆดังนี้
- กาแฟร้อน (Hot)
- กาแฟเย็น (Cold / Iced)
- กาแฟปั่น (Frappe /Blended Beverage) ทั้งนี้ Frappuccino® เป็นชื่อเฉพาะของ Starbucks เท่านั้น
ผู้คนเข้าใจผิดว่าเราต้องสั่งแบบเป๊ะๆตามภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรหากเราจะพูดภาษาไทย ดังนั้นไม่ต้องเขิน พนักงาน Starbucks มืออาชีพพอที่จะยินดีบริการคุณอย่างเสมอ
4. กำหนดความหวาน
โดยทั่วไปแล้วมักมีระดับความหวานดังนี้ (ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับบาริสต้าด้วย)
- หวานปกติ (ไม่จำเป็นต้องย้ำกับบาริสต้า เพราะเขาจะทำให้ตามสูตรอยู่แล้ว)
- หวานน้อย (นิยมสั่งกันเยอะสำหรับผู้ต้องการลดความอ้วน)
- หวานมาก (คงไม่ค่อยมีคนสั่งกันเท่าไหร่)
5. เลือกชนิดนม
ทั้งนี้บางคนอาจจะชอบลักษณะนมไม่เหมือนกัน โดยแบ่งประเภทได้ดังนี้
– นมสดธรรมดา (whole) เหมาะสำหรับคนต้องการความมันและเข้มข้น
– นมพร่องมันเนย (non-fat) เหมาะสำหรับคนต้องการลดความอ้วน
– นมถั่วเหลือง (soy) ต้องเพิ่ม 15 บาท เหมาะสำหรับคนต้องการรักษาสุขภาพ
– นมพร่องมันเนย (non-fat) เหมาะสำหรับคนต้องการลดความอ้วน
– นมถั่วเหลือง (soy) ต้องเพิ่ม 15 บาท เหมาะสำหรับคนต้องการรักษาสุขภาพ
ทั้งนี้ หากเป็นต่างประเทศ Non-fat, 2%, Whole, Half & Half หรืออาจเรียกว่า Breve
6. เลือกปริมาณของคาเฟอีน
ในกาแฟที่เราสั่ง บางคนไม่ชอบใจสั่นเพราะอาจรำคาญ หรือบางคนกังวลเพราะเป็นโรคหัวใจ หรือ เราอาจเลือกได้ดังนี้
- Regular คาเฟอีนในระดับปกติ
- Half-caf จะลดคาเฟอีนลงครึ่งนึง
- Decaf ไม่มีคาเฟอีนหรือมีน้อยมาก
7. เลือกความเข้มของกาแฟ (Shot)
หรือบางคนอาจเรียกว่าปริมาณ espresso ที่ใส่ ซึ่งโดยปกติแล้ว Espresso 1 shot หรือ 1 oz จะมีคาเฟอีนประมาณ 75 มิลลิกรัม โดยที่ short มี 1 shot, grande กับ venti มี 2 shot แต่เราสามารถเพิ่ม Extra Shot ได้ในราคา Shot ละ 15 บาท
8. เสริมแต่งรสชาติด้วย Syrup
โดยทั่วไปแล้วมีรสหลักๆให้เลือก 5 รส เพิ่มในราคา 15 บาท ดังนี้
- Vanilla
- Sugar-free Vanilla
- Hazelnut
- Raspberry
- Caramel
9. เลือก Decoration หรือ Extra
ทั้งนี้ ในเมนูต่างๆมักจะมีของตกแต่งของมันอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องใส่เพิ่ม แต่ถ้าหากเราอยาดลดหรืออยากเพิ่ม ก็สามารถเลือกได้ดังนี้ (ถ้าลดของตกแต่งเราไม่ได้เงินคืน แต่หากเพิ่มต้องจ่ายเงินเพิ่ม)
- วิปครีม (Whipped Cream) 15 บาท
-คอฟฟี่เจลลี่ (Coffee Jelly) 15 บาท
-จาวาชิฟ (Java Chip) 25 บาท
จริงๆมีที่มาจากคำว่า Frappe ในภาษาฝรั่งเศส เป็น term ที่ใช้
ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในบอสตัน ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว
มันเป็น นมปั่นกับไอศครีม
Starbucks ซื้อลิขสิทธิ์นี้มา เปลี่ยนชื่อเป็น Frappucinno
เป็นนมปั่นกับกาแฟเป็นหลัก แต่ต่อมาก็มีแบบที่ไม่ใส่กาแฟด้วยเช่นกัน
เรามาดูเมนูต่างๆกันครับ
- Coffee Frappuccino กาแฟผสมนมปั่น ถ้าคุณสั่งกาแฟปั่นหรือ Frappucinno เฉยๆคุณจะได้อันนี้
- Mocha Frappucinno คือ Mocha มาผสมกับนมปั่น นั่นเอง
- Caramel Frappucinno คือ espresso ใส่น้ำเชื่อม caramel มาผสมกับนมปั่น
- Java Chip Frappucinno คือ Mocha Frappucinno ที่ใส่ Java Chip
มาดูแบบไม่มีกาแฟ กันบ้างครับ อร่อยเลยหล่ะ
- Vanilla Cream Frappucinno ครีม ผสม วานิลลา และนมปั่น ราดวิปครีม
- Chocolate Cream Frappucinno ครีม ผสม ชอคโกแลต และนมปั่น ราดวิปครีม
- Caramel Cream Frappucinno ครีม ผสม คาราเมล และ นมปั่น ราดวิปครีม
เห็นมั๊ยครับไม่ยากเลย แถมน่ากินเอ๊ยน่าสนุกอีกด้วย
ทีนี้เวลาเราสั่ง ให้ประกอบคำดังนี้ จะเรียงสลับก็ได้นะครับ ไม่ซีเรียส
“ขนาดของเครื่องดื่ม –> ชนิดและลักษณะของเครื่องดื่ม –>ร้อน/เย็น/ปั่น –> ความหวาน (บอกไม่บอกก็ได้) –> ชนิดของนม (บอกไม่บอกก็ได้) –> ปริมาณคาเฟอีน (บอกไม่บอกก็ได้) –> extra (บอกไม่บอกก็ได้)”
เช่น
Tall, Americano, Iced แก้วนึงครับ
Grande, Mocha, Iced, whole, decaf, add whip ที่นึงคะ
Tall, Mocha, Non-fat, No whip คะ
Venti, Skinny (non-fat), Hazelnut, Latte ครับ
Tall, Caramel Frappucinno แก้วนึงคะ
Venti, White Chocolate Mocha, Iced, Whole Milk ครับ
Tall, Caramel Latte, Iced, Non-Fat, Add Whip คะ
credit: Ohlor
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น